วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คติคำคมสำหรับคนทำงาน

คติคำคมสำหรับคนทำงานคะ น่าสนใจและช่วยเตือนใจเราในการทำงานได้เป็นอย่างดีคะ


ถ้าท่านทำงานแข่งกับสังคม ความพินาศล่มจมจะตามมา
ถ้าท่านทำงานเห็นแก่หน้า ท่านจะพบปัญหาเรื่อยไป
ถ้าท่านทำตัวเห็นแก่ได้ ท่านอย่าหว ังน้ำใจจากเพื่อนฝูง
ถ้าท่านกล้าเกินไป ท่านจะทำอะไรไม่สำเร็จ
ถ้าท่านกล้าจนเกินงาม ท่านจะพบกับความเดือดร้อน
ถ้าท่านขาดความพอดี ท่านจะพบกับความทุกข์อย่างมหันต์
ถ้าท่านขาดความยังคิด ชีวิตทั้งชีวิตจะหมดความหมาย
ถ้าท่านทำใจให้สงบ ท่านจะพบกับความสุขที่เยือกเย็น
ถ้าท่านมีความพอดี ท่านจะเป็นเศรษฐีในเรือนยาจก
ถ้าท่านมีแต่ความงก ท่านจะเป็นยาจกในเรือนเศรษฐี
ถ้าท่านมีเมตตาจิต ท่านจะมีญาติมิตรทั่วบ้าน
ถ้าท่านเมตตาเกินประมาณ ท่านจะพบคนพาลทั่วเมือง
ถ้าท่านคิดถึงความหลัง ท่านจะพบรังแห่งความเศร้า
ถ้าท่านมีความมัวเมา ท่านจะพบความปวดร้าวภายหลัง
ถ้าท่านทำดีเพื่อเด่น ท่านจะถูกขเม่นจากญาติมิตร
ถ้าท่านทำดีเพื่อน้ำจิต ท่านจะมีชีวิตอยู่อย่างสบาย
ถ้าท่านหวังพึ่งแต่คนอื่น ท่านจะต้องกลืนน้ำตาตัวเอง
ถ้าท่านรู้จักใช้เวลา ชีวิตจะมีค่ากว่านี้
ถ้าไม่กินอยู่เท่าที่มี จะได้เป็นเศรษฐีเงินกู้
ถ้ามั่วสุมกับอมายมุข จะพบความทุกข์ในเบื้องปลาย
ถ้าทำหูเบาตามเขาว่า จะต้องน้ำตาตกใน
ถ้าพูดโดยไม่คิด เท่ากับพ่นลมพิษใส่คนอื่น
ถ้าจริงจังกับโลกเกินไป จะต้องตายเพราะความเศร้า
ถ้าต้องการความเป็นอิสระ ให้พยายามชนะใจตัวเอง
ถ้าไม่รู้จักความทุกข์ จะพบกับความสุขได้ที่ไหน
ถ้าไม่ยอมปล่อยวาง จะพบกับความว่างได้อย่างไร
ถ้าหาความสุขจากความมัวเมา ท่านกำลังจับเงาในกระจก
ถ้าอยากเป็นคนงาม อย่าวู่วามโกรธง่าย
ถ้าอยากเป็นคนสบาย อย่าเบื่อหน่ายความเพียร
ถ้าอยากเป็นคนมั่งมี อย่าเป็นคนดีแต่จ่าย
ถ้าอยากเป็นคนนำสมัย อย่าทำลายวัฒนธรรม
ถ้าอยากเป็นคนมีเกียรติ อย่าเหยียดหยามคนอื่น
ถ้าอยากเป็นคนความรู้ อย่าลบหลู่อาจารย์
ถ้าอยากหาความสำราญ อย่าล้างผลาญสมบัติ
ถ้าอยากเป็นคนมีอำนาจ อย่าขาดความยุติธรรม
ถ้าอยากเป็นคนดัง อย่าหวังความสงบ
ถ้าอยากเป็นที่เคารพ ต้องพบความจบก่อนตาย
อย่าทำตัวให้เด่น โดยการสร้างหนี้ให้ตัวเอง
(อย่าพยายามทำใจคนอื่นให้เหมือนใจเรา เพราะเราก็ทำใจให้เหมือนคนอื่นไม่ได้ )

คติคำคม 5

บทความเล็ก ๆ ที่น่ารัก ๆ เกี่ยวกับความรักมาฝากค่ะ  ซึ่งถูกใจและตรงใจมากค่ะ นำมาฝากให้อ่านคลายเครียดไปก่อนที่เราจะเข้าสู่ คณิตคิดสนุกนะคะ















คนที่เรารักคือคนที่ใช่สำหรับเรา
แต่บางครั้งเรารู้สึกว่าเขาไม่ใช่
คนที่เรารักคือคนที่เราคิดว่าเรารู้จักเขาดี
แต่แท้จริงแล้วเรากลับไม่รู้จักเขาเลย
คนที่เรารักคือคนที่เราพร้อมจะเป็นผู้ให้
แต่สิ่งที่เราให้ไปเขากลับไม่เคยมองเห็น
คนที่เรารักคือคนที่เราอยู่ด้วยเวลามีความสุข
แต่เวลาเราทุกข์เรากลับมองหาเขาไม่เจอ
คนที่เรารักคือคนที่เราใส่ใจทุกเวลา
แต่ที่แย่กว่าคือตลอดมาเขาไม่ได้รักเราเลย
ความรัก เป็นอะไรที่เข้าใจได้ยาก แต่ทุกคนก็ต้องมีความรัก ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เราสักครั้ง

คติคำคม 4

บทนิยามความรัก ครูอ่านเจอในเน็ตแล้วเห็นว่ามันดูดีมีความหมายและน่าสนใจ ก็เลยเก็บมาฝากให้ทุกคนได้อ่านเล่น ๆ กันค่ะ

ความรักไม่ใช่เส้นบะหมี่ -ความรักไม่ได้มีกันง่าย -ความรักจะเกิดขึ้นระหว่างหญิงและชาย -ความรักจะไม่ตายไปจากเรา --ความรักไม่ใช่ความใคร่ --ความรักเป็นความห่วงใยและคิดถึง --ความรักไม่ใช่ความต้องการของใครคนนึง --ความรักคือการคิดถึงซึ่งกันและกัน --ความรักไม่ใช่การหลอกลวง --ความรักไม่ใช่การหวงเป็นสิ่งของ --ความรักไม่ต้องการของใครมาจับจอง --ความรักไม่ใช่ของๆใคร -ความรักคือการให้ -ความรักคือการใส่ใจกันและกัน -ความรักไม่ใช่การเอาแต่จะฟัน -ความรักคือความฝันของคนสองคน --ความรักคือการอดทน --ความรักคือการไม่บ่นต่อเวลา --ความรักไม่ตีกรอบความห่วงหา --ความรักเปรียบเหมือนยารักษาใจ -ความรักไม่ใช่การหลอกใช้ -ความรักไม่ใช่การให้เพื่อหวังผล -ความรักคือการให้ของคนสองคน -ความรักไม่กังวลต่อสิ่งลวงตา --ความรักคือความเชื่อใจ --ความรักต้องไม่ระแวงกันและกัน --ความรักคือความเชื่อมั่น --ความรักต้องฝันไปให้ไกล -ความรักคือการให้เวลา -ความรักไม่ใช่บอกว่า"เราไม่ว่าง" -ความรักไม่เหมือนดอกไม้ริมทาง -ที่จะเด็ดดมทิ้งขว้างและเดินจากไป --ความรักอาจดูหอม --ความรักนั้นถอนคืนมาไม่ได้ --ความรักคือรักแล้วทั้งหัวใจ --ความรักคือความเชื่อใจที่มีให้กัน -ความรักอาจดูโง่เขลา -ความรักอาจดูเหมือนเราเป็นบ้า -ความรักต้องพิสูจน์กันที่เวลา -ความรักต้องดูกันว่าใครเปลี่ยนไป

คติคำคม 3

คติคำคมข้อคิดดีดีสำหรับความรักค่ะ


-รักเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม เติบโตด้วยการจุมพิต และจบลงด้วยน้ำตา

- อย่าเสียน้ำตา ให้กับคนที่ไม่เคยเสียน้ำตาให้คุณ

- เพื่อนที่ดีนั้นหายาก แต่ยากกว่าในการจะลาจาก และเป็นไปไม่ได้ที่จะลืมเลือน

- สิ่งที่ทำยากสุด คือ การมองดูคนที่คุณรักไปรักคนอื่น

- อย่าให้อดีตยึดติดกับคุณไว้ เพราะคุณจะพลาดสิ่งดี ๆ ที่จะผ่านมา

- คนบางคนทำให้โลกนี้ เป็นโลกที่แสนพิเศษ เพียงแค่มีเขาอยู่ในโลกใบนี้เท่านั้น

- อย่าขมวดคิ้ว เธอไม่รู้หรอกว่า มีใครบางคนหลงรักรอยยิ้มของเธอ

- ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ จนกระทั่งคุณตกหลุมรักเขาแล้ว

- เพื่อนที่ดีเหมือนดวงดาว คุณจะไม่ได้เห็นพวกเขาตลอดเวลา แต่คุณจะรู้ว่าเขาอยู่ที่นั่นเสมอ

- คุณจะทำอย่างไร เมื่อคุณรู้ว่า เพียงคน ๆ เดียวที่จะทำให้คุณหยุดร้องไห้ได้ คือคนที่ทำให้คุณร้องไห้

- เพื่อนที่ดีที่สุดเหมือนใบไม้ 4 กลีบ ยากที่จะพบ และโชคดีที่พบกัน

- สัมพันธภาพที่แท้จริง ไม่มีวันจบสิ้

คติคำคม 2

มีคติคำคมโดนใจมาฝากอีกแล้วคร้า

1.อย่าขับรถเร็วเกินกว่าที่เทวดาประจำตัวของคุณบินทันเป็นอันขาด
2.จงวางแผนล่วงหน้า : ฝนยังไม่ตกหรอกนะตอนโนอาห์สร้างเรือน่ะ
3.การแก้แค้นไม่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น
4.ความหมายของความสุขขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณอยากให้มันเป็น
5.“อย่ากลัวความฝันของคุณ มันง่ายกว่าที่คิด”
6.นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ทุกๆ 4 คน จะมีคนหนึ่งที่สติเพี้ยนๆ ลองเช็คเพื่อนคุณสัก 3 คนสิ ถ้าทุกคนปกติดี ก็คุณน่ะแหละ
7.แบ่งปันรอยยิ้มของคุณให้กับทุกคน แต่ให้เก็บจุมพิตให้กับคนเพียงคนเดียว
8.บางครั้งวิธีช่วยที่ดีที่สุดที่คุณทำได้ก็คือ
ผลักเขาแรงๆ (หมายถึงผลักดันให้เขาทำสิ่งที่ลังเลอยู่น่ะ)
9. น้ำตาจะให้คุณก็แค่ความเห็นอกเห็นใจ
แต่เหงื่อจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ
10.สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตนี้ไม่ใช่วัตถุ
11.มอบสองสิ่งให้กับลูกของคุณ
อย่างหนึ่งคือรากฐานที่มั่นคง อีกอย่างก็คือ ปีกที่จะบินออกไปเอง
12.การออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับจิตใจคือการก้มลงแล้วช่วยคนอื่นให้ลุกขึ้น
13.คนคนหนึ่งอาจทำอะไรผิดพลาดได้หลายอย่าง
แต่มันจะกลายเป็นความพ่ายแพ้ไปจริงๆ เมื่อเขาเริ่มโยนความผิดไปให้คนอื่น
14.เพื่อนแท้คือคนที่เชื่อว่าคุณเป็นฟองไข่ที่สมบูรณ์แม้ว่าจริงๆแล้วคุณจะมีรอ ยร้าวไปแล้วครึ่งหนึ่ง
15. นี่คือวิธีที่จะรู้ว่าหน้าที่ของคุณบนโลกใบนี้จบสิ้นแล้วหรือยัง
:ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ มันก็ยังไม่จบ
16. ชีวิตเรียนรู้ได้จากการย้อนระลึกถึง
แต่ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า
17.การใช้ชีวิตอยู่บนโลกนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงมาก
แต่เราก็ได้เดินทางรอบดวงอาทิตย์ฟรีๆ เป็นของแถม
18.ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มนุษย์เราจะร่ำรวย
ความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อความร่ำรวย เริ่มครอบครองมนุษย์
19.เรารู้สึกดีที่มีความสำคัญ
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือเป็นคนดี
20. มีแต่ปลาตายที่ลอยตามน้ำ
21.คุณค่าของคนคนหนึ่งบอกได้จากวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคนที่เขาไม่ต้องการ
22. เงยหน้าขึ้นรับแสงตะวัน แล้วคุณจะไม่มีวันพบกับเงามืด
- เฮเลนเคลเลอร์
23. คนอ่อนแอเท่านั้นที่ให้อภัยใครไม่เป็น
การให้อภัยเป็นคุณสมบัติของผู้เข้มแข็ง
24.คำว่า listen (ฟัง) นั้นใช้ตัวอักษรชุดเดียวกับคำว่า silent (เงียบ)
25.ไม่มีผู้โดยสารบนยานอวกาศที่ชื่อว่า
“โลก”พวกเราทุกคนล้วนแต่เป็นลูกเรือทั้งสิ้น
26.ในโลกนี้ไม่มีคนแปลกหน้าสำหรับเรา
มีแต่เพื่อนที่เรายังไม่ได้พบเท่านั้น
27.เมื่อคุณพูดความจริง คุณไม่จำเป็นต้องไปนั่งจำอะไรทั้งนั้น
28.เด็กๆต้องการความรักมากที่สุดเมื่อพวกเขาทำตัวไม่น่ารัก

คติคำคม 1

 วันนี้มีคติคำคมที่ดี ๆ มาฝากคะ
ไม่มีใครมาลิขิตชีวิตเราได้นอกจากตัวเราเอง
ไม่มีอะไรยากเกินไป หากเราคิดว่าเราทำได้
อย่าเพิ่งท้อแท้ในสิ่งที่ยังไม่พยายาม และอย่าเพิ่งหมดหวังในสิ่งที่ยังไม่เริ่มต้น
ไม่มีคำว่าสาย ถ้าคิดจะเริ่มต้น
อย่าพูดว่าทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ทำ
อย่ากลัวล้มทั้งๆที่ยังไม่เริ่มต้น
การหนีปัญหาเป็นสิ่งที่ดี แต่การเผชิญหน้ากับมันย่อมดีกว่า
อย่ากลัวที่จะก้าวไปช้าๆ จงกลัวที่จะหยุดอยู่กับที่
อุปสรรคคือความแข็งแกร่ง
ปัญหาคือการฝึกฝน
ความผิดพลาดคือการเรียน
เวลาไม่เคยหวนกลับ เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขวันวานได้
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด (คติคลาสสิกที่สุดและ ^^)
เก็บความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียนสำหรับอนาคต
อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ แล้วก็อย่าบอกว่าเวลาไม่เคยพอ
ทำวันนี้ให้มีความสุขก็พอ
อดีตไม่สำคัญ..ปัจจุบันทำให้ดีที่สุด
อนาคตไม่ไกล ไปให้ถึง
ประวัติศาสตร์ไม่มีวันซ้ำรอย
ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะอาจไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับเรา
ความพ่ายแพ้ในวันนี้ คือบทเรียนที่ดีในวันหน้า
ท้อแต่ไม่ถอย
อดีต คือความฝัน ปัจจุบัน คือความจริง อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
จงอดทนต่อสิ่งเลวร้ายที่เกิดกับเรา เมื่อผ่านไปได้มันจะเป็นเรื่องที่เล็กสำหรับเรา
ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน
มุ่งหวัง ตั้งใจ ทำให้สำเร็จ
อย่าคิดว่าทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ทำ
ทำทุกอย่างให้เต็มความสามารถ
ความพยายามคือหนทางแห่งความสำเร็จ
อย่าพูดว่าหมดหวัง ถ้ายังไม่พยายาม
ยิ้มเข้าไว้กำลังใจจะตามมา
แรงของปลาอยู่ที่หาง แรงของคนอยู่ที่กำลังใจ
คิดก่อนทุกคำที่พูด แต่อย่าพูดทุกคำที่คิด
ทำสิ่งที่ดี ๆ เกิดขึ้นกับชีวิตบ่อย ๆ
เต็มที่กับสิ่งที่กำลังทำอยู่
อย่ากลัวกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง มีความกตัญญู ย่อมประสบความสำเร็จ
ชีวิตไม่ได้เกิดมาเพื่อยอมแพ้
หนึ่งครั้งที่ผิดพลาด คือฉลาดอีกหนึ่งเรื่อง
รากฐานของตึกคืออิฐ รากฐานของชีวิตคือการศึกษา
อุปสรรค คือแรงกดันนำไปสู่ความสำเร็จ
พรุ่งนี้จะดีได้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
การศึกษาคือการลงทุน
ก้าวสั้นแล้วมั่นคง ดีกว่าล้มลงเพราะก้าวยาว
ระยะทางพิสูจน์ม้าการเวลาพิสูจน์คน
สู่จุดหมายให้ถึงที่สุดอย่าหยุดเมื่อสิ้นหวัง

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ทัศนศึกษาปี 52 ตอน 6-7

         เป็นไงบ้างคะกับภาพกิจกรรมทัศนศึกษาของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพานพิเศษพิทยา ปีการศึกษา 2552  ที่จัดขึ้นตามโครงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่  ได้ดูตอน 1-5 ไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เรามาดูกันต่อในตอนที่ 6-7 กันนะคะ 
ตอน 6   http://www.youtube.com/watch?v=qFiGoFhrMh0
ตอน 7   http://www.youtube.com/watch?v=MixnCMsxARQ

ทัศนศึกษาปี 52 ตอน 3-5

ภาพกิจกรรมทัศนศึกษาของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพานพิเศษพิทยา ปีการศึกษา 2552  ที่จัดขึ้นตามโครงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ ซึ่งเราได้ไปเยี่ยมชมตามสถานที่หน่วยงานราชการต่าง ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และชลบุรี โดยใช้เวลาในการไปทัศนศึกษาครั้งนี้จำนวน 4 วัน 3 คืน ได้ดูตอน 1-2 ไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เรามาดูกันต่อในตอนที่ 3-5 กันนะคะ

ตอน 3  http://www.youtube.com/watch?v=wuucUBwT1bo
ตอน 4  http://www.youtube.com/watch?v=1Fw43PMV948
ตอน 5  http://www.youtube.com/watch?v=CfYSqTqAlR8

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คณิตคิดสนุก ข้อ 42

คณิตคิดสนุก ข้อ 42 มาแล้วค่ะ มาวอร์มอัพด้วยเรื่องง่าย ๆ คิดง่าย ๆ กันก่อนนะคะสำหรับสัปดาห์นี้

"รูปสี่เหลี่ยมจัตรัสด้านล่างนี้ ถูกแบ่งออกเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเท่ากัน 4 รูป ซึ่งแต่ละรูปมีความยาวรอบรูปเท่ากับ 40 หน่วย อยากทราบว่ารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีความยาวรอบรูปเป็นเท่าใด"











ง่ายมากเลยใช่ไหมคะ มาเร็วมาคิดคำนวณกัน ได้คำตอบเท่าไหร่เอ่ย?????

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ทัศนศึกษาปี 52 ตอน 1-2

          ครูมีภาพกิจกรรมทัศนศึกษาของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพานพิเศษพิทยา ปีการศึกษา 2552  ที่จัดขึ้นตามโครงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ ซึ่งเราได้ไปเยี่ยมชมตามสถานที่หน่วยงานราชการต่าง ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และชลบุรี โดยใช้เวลาในการไปทัศนศึกษาครั้งนี้จำนวน 4 วัน 3 คืน ครูได้มาฝากให้ดูกันเล่น ๆ คะ ซึ่งจะมีสถานที่ไหนบ้าง สวยงาม น่าสนใจไหม และใครเป็นใคร พี่ชาย พี่สาวของใครบ้าง เพื่อนใครบ้าง ก็ดูกันเอาเองนะคะ  วันนี้มีมาให้ดูเบื้องต้นแค่ 2 ตอนก่อนนะคะ

ตอน 1  http://www.youtube.com/watch?v=jZIUbIuCP2I
ตอน 2/1  http://www.youtube.com/watch?v=Ihp0ZVFB-Nk
ตอน 2/2  http://www.youtube.com/watch?v=IjxA44IM2cY

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต

           ในการเก็บรวบรวมข้อมูลไม่ได้มีแต่การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เพียงเท่านั้น ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลได้ และนี่ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มหลังจากที่ได้เรียนรู้จากเนื้อหาในห้องเรียนมาแล้ว นั่นคือการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต เข้าไปเยี่ยมชมผลงานของนักเรียนดูนะคะ ที่สำคัญอย่าลืมติชมให้กำลังใจกับนักเรียนในการปฏิบัติกิจกรรมด้วยนะคะ
http://www.youtube.com/watch?v=TGJCsrgibL8

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คณิตคิดสนุก ข้อ 41

           ข้อนี้เป็นการทบทวนในเรื่องของ อนุกรมเรขาคณิตค่ะ รับรองไม่ยากเลยหากนักเรียนจำสูตรได้และจำแม่สูตรคูณได้อย่างถูกต้องแม่นยำคะ

1. จงหาผลบวก 8 พจน์แรกของอนุกรมเรขาคณิต 1 + 4 + 16 + ...
2. จงหาผลบวก 7 พจน์แรกของอนุกรมเรขาคณิต  5 + 15 + 45 + ...


ทำกันได้ไหมคะ ไหนขอดูคำตอบหน่อย....

คณิตคิดสนุก ข้อ 40

ตามมาด้วยเรื่องของ ลำดับเรขาคณิตคะ 

1. จงหาพจน์ที่ 8 ของลำดับเรขาคณิต 2, 10, 50, ...
2. จงหาพจน์ที่ 7 ของลำดับเรขาคณิต 3, -6, 12, ...

อย่าลืมใช้สูตรในการคิดคำนวณหาค่าให้ถูกต้องด้วยนะคะ

คณิตคิดสนุก ข้อ 39 (ทบทวนก่อนสอบ )

     สำหรับคณิตคิดสนุกในสัปดาห์นี้ เป็นเรื่องของอนุกรมเลขคณิตคะ ซึ่งเป็นการทบทวนคณิตศาสตร์ก่อนที่นักเรียนจะทำการสอบระหว่างภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 กันคะ ครั้งนี้มีมาให้คิดอยู่ 4 ข้อค่ะ ลองทำดูนะคะ

1. จงหาผลบวก 20 พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิต  5 + 9 + 13 + ...
2. จงหาผลบวก 15 พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิต  30 + 24 + 18 + ...
3. จงหาผลบวกของอนุกรมเลขคณิต  3 + 8 + 13 + ... + 148
4. จงหาผลบวกของอนุกรมเลขคณิต  50 + 45 + 40 + ... + (-25)



ผลงานนักเรียนหนังสือเล่มเล็ก

    ผลงานจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง ลำดับและอนุกรม โดยนักเรียนได้สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการเรียนคณิตศาสตร์ในเรื่องดังกล่าว  ของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2554 ซึ่งจะมีของใครบ้างก็ดูกันเอาเองนะคะ

 
  







  
     หลังจากที่นักเรียนทุกคนได้ทำงานกลุ่ม...หนังสือเล่มเล็กสรุปองค์ความรู้จากการเรียนคณิตศาสตร์เรื่อง..ลำดับและอนุกรม ไปแล้วนั้น หลายคนหลายกลุ่ม ผลงานที่ทำออกมาเยี่ยมมากมากค่ะ ครูขอปรบมือและยกนิ้วให้กับผลงานของนักเรียนทุกชิ้นที่ทำออกมาได้เสร็จสมบูรณ์และส่งได้ตรงเวลาที่กำหนดคะ แล้วอย่าลืมติดตามดูนะคะว่าผลงานของใครบ้างที่ได้มานำเสนอบน facebook และ Blog นี้ค่ะ...


 
   


อยากรู้ว่า นักเรียนได้ข้อคิด ประสบการณ์ ได้บทเรียนสำหรับตัวนักเรียนเองในการทำงานชิ้นนี้อย่างไรบ้างคะ...?????

กลยุทธ์และเคล็ดลับการศึกษาคณิตศาสตร์

การเรียนคณิตศาสตร์หลายคนบอกว่ายากมากที่จะทำความเข้าใจ จึงทำให้ดูน่าเบื่อและไม่อยากทำการบ้านส่งครู และหลายบอกว่าหากเข้าใจแล้วสามารถทำการบ้านได้อย่างชิว ชิว ซึ่งครูคิดว่าการเรียนรู้คณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่ไม่ยากเกินไปสำหรับผู้ที่ให้ความสนใจและตั้งใจเรียนรู้มันอย่างเต็มที่ คะ วันนี้ครูมีกลยุทธ์และเคล็ดลับการศึกษาคณิตศาสตร์ มาฝากคะซึ่งครูได้อ่านเจอในอินเตอร์เน็ตและได้เห็นว่ามันสามารถนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับผู้ที่ให้ความสนใจคณิตศาสตร์ได้อย่างถ่องแท้แน่นอนคะ

วิธีการศึกษาในชั้นเรียนคณิตศาสตร์
1 พยายามที่จะใช้หลักสูตรคณิตศาสตร์ของคุณกลับไปกลับโดยไม่ข้ามภาคการศึกษา ก่อนที่จะเริ่มหลักสูตรใหม่, ทบทวนคณิตศาสตร์จากหลักสูตรเดิม
2 ไม่ให้ตัวเองตกหลัง ถ้าเรียนดูเหมือนง่ายเกินไปอย่าลืมว่าเรียนคณิตศาสตร์เริ่มต้นด้วยการทบทวน
บางอย่าง แต่ ณ จุดหนึ่งคลาสเตะเข้าเกียร์สูงและหากคุณยังไม่ได้รับการรักษาคุณได้อย่างรวดเร็วจะกลายเป็นหายไป
3 อ่านหรืออย่างน้อยก่อนที่จะสแกนบทบรรยายและอ่านอีกครั้งในภายหลัง แต่ไม่ได้อ่านหนังสือ
คณิตศาสตร์กับเป้าหมายของการจำนั้นแทนคิดว่ามันเป็นหนังสืออ้างอิงที่จะช่วยให้คุณเข้าใจชนิดต่างๆของปัญหาคณิตศาสตร์
4 เมื่อคุณอ่านข้อความของคุณจะคำนวณพร้อมกับหนังสือ ทำงานปัญหาส่วนโดยส่วนที่คุณอ่านข้อ
ความ
5 ในการบรรยายของคุณเขียนลงทุกอย่างอาจารย์เขียนลงและถ้าเขา / เธอจะใช้สีที่ต่างกันของหมึกทำ
เช่นเดียวกัน แม้ว่าคุณคิดว่าคุณเข้าใจปัญหาเขียนแต่ละขั้นตอน! คุณอาจพบว่าตัวเองสับสนสองสัปดาห์ต่อมาและต้องบันทึกที่สำหรับการทดสอบ
6 It 's fine จำสัญลักษณ์คณิตศาสตร์และคำจำกัดความ แต่พยายามที่จะเข้าใจกระบวนการต้นแบบและ
แนวคิด เมื่อคุณดูการถามตัวเองที่ใช้สำหรับแต่ละขั้นตอน คิด analogies และพยายามที่จะเห็นภาพการใช้งาน สุดท้ายอาจช่วยอธิบาย (หรืออย่างน้อยพยายามอธิบาย) แนวคิดให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว มีการจัดระเบียบความคิดของคุณและคำพูด deepens พวกเขาเข้าใจ
7 ถ้าคุณพบว่าตัวเองสับสนหัวข้อลองของทรัพยากรต่อไปนี้หนังสือทบทวนตำราเรียนสูง (ตัวเองหรือ
จากห้องสมุด), กวดวิชา, TA, หรือผู้สอน ผู้สอนจะมีประโยชน์มากโดยเฉพาะถ้าคุณใช้พวกเขาเร็วพอ ไม่ต้องรอจนกว่าจะได้ D ในการสอบ! 
การบ้าน 
1 ทำการบ้านคณิตศาสตร์ของท่านทันทีหลังเลิกเรียนมากที่สุดในขณะที่แนวคิดยังคงสด ถ้าคุณพบว่าตัวเองสับสนขอชี้แจงทันทีโดยการพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นหรือครูสอนพิเศษ ไม่รอทำบ้านของคุณจนกว่าจะเรียนต่อไป, สัญญาตัวเองจะทันในวันหยุดสุดสัปดาห์ (วันหยุดเป็นเวลาที่ดีในการเขียนเรียงความแต่ระหว่างสัปดาห์คุณควรจะรักษากับคณิตศาสตร์ของคุณ . )
2 เริ่มต้นด้วยการดูบันทึกการบรรยายของคุณ ใช้แผ่นแยกกระดาษและพยายามทำงานปัญหาตัวอย่าง
ด้วยตัวเองแล้วคำตอบของคุณกับคนในบันทึกของคุณ
3 ลองนั่งกับเพื่อนร่วมชั้นในการทำการบ้านของแต่ละคุณทำงานของคุณเอง แต่ปรึกษากันเมื่อคุณได้รับ
สับสน อย่างน้อยที่สุดรับหมายเลขโทรศัพท์ของเพื่อนร่วมชั้นเพื่อให้คุณมีคนโทรเมื่อคุณติด
4 คำตอบแรกของคุณในส่วนที่กำหนดก่อนที่จะทำชุดทั้งปัญหา เมื่อคุณทำผิดพลาดให้ตรวจสอบแหล่ง
ที่มาของข้อผิดพลาดและทำให้ทราบจิตของวิธีการหลีกเลี่ยงชนิดของข้อผิดพลาดในอนาคต (เช่นการตรวจสอบอีกครั้งทั้งหมดบวกและลบสัญญาณที่ a) ถ้าคุณไม่พบความผิดพลาดของปัญหาหลังจากที่ทั้งสองพยายามหรือ 15 นาทีไม่ติด ปรึกษากับนักเรียนคนอื่นหรือผู้ปกครอง
5 เมื่อทำงานในบ้านพยายามทำทุกปัญหากำหนด แต่ในกรณีฉุกเฉินให้ทำอย่างน้อยตัวอย่างตัวแทนของ
ประเภทปัญหาแต่ละ
6 อ่านปัญหาแต่ละอย่างช้าๆและระมัดระวังใช้ดินสอตามคำเพื่อให้แน่ใจว่าคุณแจ้งให้ทราบและเข้าใจแต่
ละคำ (เช่นการหาความยาวของขาขนาดเล็กของรูปสามเหลี่ยม)
7 คำสรุปปัญหาโดยการวาดไดอะแกรมหรือการตั้งค่าข้อมูลในตาราง สังคายนาปัญหาเข้าให้ค้นหาความ
ต้องการ
8 สำหรับปัญหาคำที่ยากมากหรือเมื่อคุณลืมสูตรแทนตัวเลขง่าย เมื่อคุณเข้าใจธรรมชาติของปัญหาให้
ใช้กระบวนการเดียวกันกับตัวเลขจริงในปัญหา
9 ที่สิ้นสุดของช่วงการบ้าน ทบทวนแนวคิดที่สำคัญที่สุดที่คุณได้เรียนรู้


วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การสัมภาษณ์เรื่องการออกกำลังกาย

มีผลงานการเก็บรวบรวมข้อมูลของนักเรียนที่จะขอนำเสนออีกกลุ่มคะ ซึ่งผู้ที่ติดตามผลงานของนักเรียนมาตลอดลองเข้าไปเยี่ยมชมดูนะคะ จะได้รู้ว่ากลุ่มที่ผ่านมาและกลุ่มนี้มีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ป่ะไปดูกันคะ  http://www.youtube.com/watch?v=6aGdFDUYFTE

การสัมภาษณ์เรื่องการนวดแผนไทย

นี่ก็เป็นผลงานการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์อีกกลุ่มคะ  ในการสัมภาษณ์นี้เป็นการสัมภาษณ์ในเรื่อง การนวดแผนไทย ค่ะ ดูแล้วอย่าลืมติชมให้กำลังใจแก่นักเรียนด้วยนะคะ จักขอบคุณมากค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=-GFI1Aq_PQk

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การสัมภาษณ์เรื่องศูนย์เพื่อน้องหญิง

วันนี้มีผลงานของนักเรียนจากการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์มาฝากอีกกลุ่มค่ะ

การสัมภาษณ์เรื่องศูนย์เพื่อน้องหญิง http://www.youtube.com/watch?v=J-A_Rq_JaTY

ดูแล้วอย่าลืมติชมการทำงานของนักเรียนกลุ่มนี้ด้วยนะคะ....Thanks...

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คลายเครียด

มาคลายเครียดกันด้วยการดู เดี่ยวไมโครโฟน 8 ของโน๊ต อุดม แต้พานิช กันดีกว่าคะ รับรองไม่เครียด หัวเราะได้ตลอดคร้า......

http://www.youtube.com/watch?v=5iBvXq55SJU&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=h5BpHOGUc0o
http://www.youtube.com/watch?v=BhNOp6ko6lQ&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=WpIiqh52hmI&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=xQqu8YkieAk&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=7RRgOwdEIIA&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=WaCiAxpMKz4&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=nlBs_Atqd6E&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=3d1SjB6KNCc&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=2JzYLzSkY5o&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=qxQUY6Py61Y&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=M3lLl9qIRWg&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=k2X08ZpjfQA&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=Uq1AyI3G1HQ&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=MTrwfv4PbjU&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=9Ru8WFs_iCA&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=0Je8y2g6fPg&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=6s4HGsM4n4I&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=kWZ93GJtMxU&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=8kt5OjTMb4g&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=IWlw8-6B19w&feature=related

http://www.youtube.com/watch?v=kDZTzVkuW0E
http://www.youtube.com/watch?v=xbMBBgSKWeA
http://www.youtube.com/watch?v=Z_jlhL-u1FE&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=d9RFO6ZVSAI&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=28Kd4krvqgc&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=KvPa36_4HHM&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=AmXjID_R5GI&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=0zbUIEt5pzU&feature=related

การสัมภาษณ์เรื่องน้ำเสาวรส

วันนี้มีผลงานของนักเรียนที่ปฏิบัติกิจกรรมภาคสนามอันเกิดจากการเรียนรู้ในรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2553 เรื่องสถิติและข้อมูล ที่เน้นทักษะการทำงานแบบกลุ่ร่วมมือ ซึ่งเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์มาฝากคะ โดยเป็นการสร้างสรรค์ผลงานด้วยตนเองของนักเรียน การทำงานกลุ่ม   ขอชื่นชมการปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของนักเรียนค่ะ ผลงานชิ้นแรกที่ขอนำเสนอในครั้งนี้ได้แก่
การสัมภาษณ์เรื่องน้ำเสาวรส  http://www.youtube.com/watch?v​=aYR_zq-Kkp8

อ่านหนังสือมุมไหนดีที่สุด

นี่ก็ใกล้จะถึงเทศกาลสอบเก็บคะแนนระหว่างภาคเรียน ของนักเรียนประจำ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 อีกแล้วค่ะ เชื่อว่านักเรียนหลายคนคงเตรียมอ่านหนังสือไว้ล่วงหน้าแล้ว วันนี้ครูมีข้อความดี ๆ ที่ครูได้อ่านพบในอินเตอร์เน็ตแล้วเห็นว่ามีประโยชน์สำหรับนักเรียนมาฝากคะ อ่านดูนะคะแล้วจะได้นำเอาไปประกอบใช้ในการอ่านหนังสือคะ
          จะอ่านหนังสือทั้งที นอกจากจะต้องมีความมุ่งมั่นแล้ว การเลือกสถานที่อ่านหนังสือก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากเลยนะ รู้มั้ยว่าเพราะอะไร 
      สิ่งแวดล้อมในการอ่านหนังสือ จะช่วยส่งเสริมสมาธิ ซึ่งส่งผลต่อกระบวนการทางสมองและความจำด้วย ถ้าเลือกที่ไม่ดี ก็จะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง เช่น เลือกที่ที่เสียงดัง ก็จะรบกวนสมาธิสุดๆ หรืออ่านหน้าคอม แบบนี้ให้อมพระมาพูดว่าเลือกอ่านหนังสือก็ไม่มีใครเชื่อหรอกค่ะ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เค้าเรียกว่า สิ่งแวดล้อม โดยในที่นี้ก็จะเรียกว่าสิ่งแวดล้อมในการอ่านหนังสือ เพราะ สิ่งที่อยู่รอบตัวล้วนส่งผลกระทบต่อการอ่านหนังสือนั่นเอง คงอยากรู้แล้วล่ะสิ ว่าสิ่งแวดล้อมที่เหมาะกับการอ่านหนังสือเป็นยังไง   
     
สิ่งแวดล้อมที่เหมาะกับการอ่านหนังสือ จะต้องไม่มีเสียง สิ่งของ รวมทั้งเรื่องกลิ่น มารบกวน ซึ่งสิ่งของที่ทำลายสมาธินั้นมีหลายอย่าง เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เกม การ์ตูน ฯลฯ หรือพูดให้ง่ายกว่านั้นก็คืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่หนังสือเรียน แต่มีแรงดึงดูดสูงมาก ซึ่งจะมากระตุ้นจิตใจของเราให้ไขว้เขวอย่างหนัก ยิ่งถ้าเป็นคนสมาธิสั้น รับรองว่าสติหลุดตั้งแต่สิบนาทีแรกค่ะ เพราะฉะนั้นทางแก้ที่ดี ก็คือ เอาสิ่งของเหล่านั้นเก็บให้เรียบร้อย หรือให้ง่ายกว่านั้นก็หาสถานที่ที่ไม่มีสิ่งของมาคอยกวนใจ ส่วนในเรื่องเสียงและกลิ่นนั้น ก็คงต้องขอความร่วมมือจากคนในบ้านหรือเลือกสถานที่ที่เงียบสงบ เช่น ห้องสมุด หรือ วัด เป็นต้น (อันหลังนี่ชักยังไงๆ อยู่) 
สำหรับปัจจัยสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น อุณหภูมิ แสงสว่าง อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นสิ่งที่เอื้อต่อการนั่งอ่านหนังสือของน้องๆ ถ้าแสงไม่พอ  ก็จะปวดตาไม่อยากอ่านหนังสือ หรือ ถ้าอากาศร้อน ก็จะหงุดหงิดไม่อยากอ่านหนังสืออีก หรือถ้าเก้าอี้นุ่มนิ่มสบายเกิน ก็ชวนหลับมากกว่า เป็นต้น เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่อยู่รอบตัวเราทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ก็ถือเป็นสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อการอ่านหนังสือของเราทั้งนั้น แต่มันต่างกันตรงที่ว่าจะส่งผลในทางที่ดีหรือเสีย เท่านั้นแหละค่ะ^^

วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คณิตคิดสนุก ข้อ 38

         คณิตคิดสนุกในข้อนี้เป็นเรื่องของตัวเลขปริศนา ซึ่งจะมีการใบ้คำให้อยู่ 4 ข้อ แล้วลองทายดูสิว่าตัวเลขปริศนานั้นคือเลขอะไร เรามาดูการใบ้คำกันก่อนดีไหมคะ
การใบ้คำประกอบ .....
 -  มันเป็นเลขสามหลัก
 -  เลขหลักสิบคือเลข 0
 -  เลขทั้งสามตัวเมื่อรวมกันแล้วได้ 9
 -  มันสามารถหารด้วย  17  ลงตัว  
ตัวเลขปริศนาคือเลข............................................

คณิตคิดสนุก ข้อ 37

คณิตคิดสนุก ข้อนี้เป็นโจทย์ปัญหาง่าย ๆ ซึ่งทุกคนสามารถหาคำตอบได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้เวลามากค่ะ มาดูโจทย์กันดีกว่าคะ

     " A มีค่าเป็น 2 เท่าของ B เมื่อบวก B ด้วย 5 จะเท่ากับ C ซึ่ง C มีค่าเป็น 3 เท่าของ D ถ้า D คือ 5 อยากทราบว่า A คือจำนวนใด ( กำหนด A, B, C และ D เป็นจำนวนนับ )"
        จำนวนนับ A  คือ .................................................................................

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คณิตคิดสนุก ข้อ 36

มาทบทวนการบวกการลบกับคณิตคิดสนุกข้อนี้กันเถอะคะ เพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมองให้ตื่นตัวยิ่งขึ้นคะ
       เติมเครื่องหมาย  " +  "  และ " - "  ลงในกรอบสี่เหลี่ยมซึ่งทำให้ผลลัพธ์เป็นจริง

คณิตคิดสนุก ข้อ 35

คณิตคิดสนุกข้อนี้ ใช้ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ในด้านทักษะเชาว์ปัญญาช่วยคะ เชื่อว่าทุกคนทำได้แน่นอนคร้าเพราะทุกคนเก่งคณิตศาสตร์กันอยู่แล้ว ....เน๊อะ

         " พิจารณาภาพ แล้วบอกได้ไหมคะว่า มีรูปสี่เหลี่ยมที่แตกต่างกันในภาพทั้งหมดกี่ภาพเอ่ย"

คณิตคิดสนุก ข้อ 34

มาดูคณิตคิดสนุกกันต่อนะคะ ข้อนี้ใช้หลักการทางคณิตศาสตร์เข้ามาช่วยค่ะ มาดูโจทย์กันคะ

" ตามแบบรูปที่กำหนดให้ รูปที่ 8 มีกี่จุดจ้ะ"

ได้คำตอบแล้วอย่าลืมใส่คำตอบลงในช่องแสดงความคิดเห็นให้ครูทราบนะคะ

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คณิตคิดสนุก ข้อ 33

หลังจากที่เครียดกับการทำคณิตคิดสนุก ข้อ 32 มาแล้ว เรามาผ่อนคลายความเครียดด้วยการคิดกับคณิตคิดสนุก ข้อ 33 กันดีกว่าคะ รับรองไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอนคะ ชิว ชิว....

มีรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าทั้งหมดกี่รูปที่มีรูปดาวอยู่ภายในสี่เหลี่ยม

อ๊ะ อ๊ะ ได้คำตอบแล้วสิคะ มั่นใจหรือเปล่า.....ไหนขอดูคำตอบหน่อยสิคะ

คณิตคิดสนุก ข้อ 32

คณิตคิดสนุกข้อนี้อาจจะยากสักหน่อยสำหรับบางคน แต่หากคิดอย่างเป็นระบบตามขั้นตอนก็จะทำให้รู้คำตอบได้โดยไม่ยากคะ เรามาดูโจทย์ปัญหากันนะคะ

   " สร้างรูปสามเหลี่ยมด้วยไม้ขีดไฟขนาด 2 เซนติเมตร ด้วยวิธีการดังรูป ถ้าต้องการสร้างรูปสามเหลี่ยมที่มีเส้นรอบรูป 180  เซนติเตร จะต้องใช้ไม้ขีดไฟทั้งหมดกี่ก้าน"

คณิตคิดสนุก ข้อ 31

ข้อนี้ง่ายมาก ๆ คะ ลองทำดูนะคะ

      " พี่น้อง 5 คน ยืนเรียงแถวหน้ากระดาน โดยป๋องยืนติดกับแป๋ง  ป้องยืนอยู่ระหว่างแป้งและปลาและเป้ยืนติดกับป๋อง อยากทราบว่าใครยืนอยู่ตรงกลาง "


         คนที่ยืนตรงกลาง คือ..............................................................

ได้คำตอบหรือยังค่ะ...????  ง่ายมากเลยใช่ไหม.....

คณิตคิดสนุก ข้อ 30

ต่อด้วยคณิตคิดสนุก ข้อ 30 คะ

จำนวนนับ A คืออะไร
        ถ้านำ A หารด้วย 3 จะเท่ากับ B เมื่อนำ 40 ไปบวกกับ B จะเท่ากับ C และนำ 2 คูณกับ C จะเท่ากับ D ซึ่งมีค่าตรงกับจำนวนที่น้อยกว่า 100 อยู่ 2

จำนวนนับ A คือ...........................................................................
ค่อยคิดตามลำดับทีละขั้นตอนนะคะ  แล้วจะได้คำตอบที่ไม่ยากเลยคะ

คณิตคิดสนุก ข้อ 29

กลับมาแล้วคะสำหรับคณิตคิดสนุก วันนี้เรามาวอร์มอัพสมองด้วยคำถามเบา ๆ กันก่อนนะคะ

" ขาวเตี้ยกว่าดำ  แต่สูงกว่าแดง เขียวสูงกว่าขาว  แต่เตี้ยกว่าดำ "
อยากทราบว่า
1) ใครสูงที่สุด................................................................................
2) ใครเตี้ยที่สุด..............................................................................


เป็นไงบ้างคะอ่านโจทย์แล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมคะสำหรับคำตอบ ชิว ชิว เน๊อะ....

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คิดเลขในใจช่วยป้องกันสมองเสื่อม

นพ.สุวินัย บุษราคัมวงษ์ แพทย์ด้านอายุรกรรมสมอง สถานพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 เปิดเผยว่า “การคิดเลขในใจช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมเนื่องจากทำให้สมองได้ออกกำลังและเพิ่มการสื่อสัญญาณประสาทในสมอง”
งานวิจัยในปัจจุบันพบว่า เซลล์ประสาทจะถูกผลิตสร้างขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ แต่จะเสื่อมสภาพลงถ้าไม่มีการใช้งาน ถ้าเราทำกิจกรรมใดๆ ซ้ำๆ บ่อยๆ ทำให้เซลล์สมองส่วนนั้นถูกกระตุ้นบ่อยๆ เซลล์สมองส่วนนั้นจะแข็งแรง และไม่เสื่อมสภาพลงไปง่ายๆ
โรคสมองเสื่อมอาจเกิดขึ้นได้ในคนทุกวัย แต่พบบ่อยในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในประเทศไทยยังไม่มีการสำรวจอย่างเป็นทางการแต่คาดว่ามีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 200,000 – 300,000 คน มีงานวิจัยในประเทศตะวันตกพบว่า คนอายุ 65 ปีป่วยด้วยโรคสมองเสื่อม 1 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในทุกๆ 5 ปีที่อายุเพิ่มขึ้น ผู้ที่มีอายุ 86 ปีขึ้นไปพบว่าป่วยด้วยโรคสมองเสื่อม 32 เปอร์เซ็นต์
โดยผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจะสูญเสียเซลล์ประสาทเร็วกว่าปกติในระดับที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต ทั้งเรื่องความจำ การควบคุมอารมณ์ ไม่สามารถแยกถูกผิด ความฉลาด และการสั่งงานของสมอง เช่น การเปิดแก๊สหุงต้มทิ้งไว้เพราะลืม หรือเห็นแก๊สเปิดทิ้งไว้ก็ไม่ปิด เพราะนึกไม่ออกว่าจะปิดอย่างไร และไม่คิดว่าจะเกิดอันตรายขึ้นได้ ฯลฯ
ซึ่งในคนปกติจะมีเซลล์สมองอยู่กว่า 1 ล้านล้านเซลล์ ซึ่งแต่ละเซลล์อาจเชื่อมโยงกับเซลล์ประสาทอื่นๆ อีกประมาณ 80,000 – 100,000 เซลล์
การคิดเลขในใจทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง จะกระตุ้นให้เกิดการออกกำลังกายของสมอง (Brain Exercise) กระตุ้นเซลล์สมองให้สร้างแขนงประสาทไปเชื่อมต่อกับเซลล์สมองส่วนอื่นๆ เพิ่มเส้นใยประสาทของเซลล์ประสาท (Neurons) ให้มีการเชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น และยังอาจเพิ่มปริมาณสารเคมีที่บรรจุอยู่ประสาทให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้สามารถใช้สมองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมเรามักจะเห็นพ่อค้าแม่ค้าสูงอายุคิดค่าอาหาร และเงินทอนได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ฝึกคิดเลขในใจ
         คิดค่าของที่ซื้อเวลาไปจ่ายตลาด คิดค่าอาหาร และเงินทอนเวลาไปทานข้าวนอกบ้าน คิดรายรับในแต่ละเดือน คิดค่าใช้จ่ายในบ้าน คิดตัวเลขรายรับ รายจ่ายเงินในบัญชีธนาคารแทนการกดเครื่องคิดเลข ฯลฯ ซึ่งต้องใช้ทั้งการบวก ลบ คูณ หารในบางครั้ง ช่วงแรกควรเริ่มจากเลข 2 หลักก่อนโดยไม่ต้องใช้นิ้วมือมาช่วยนับ หลังจากนั้นค่อยเพิ่มจำนวน เมื่อเริ่มคล่องขึ้นแล้วจึงเริ่มลบตัวเลขแบบง่ายๆ การคูณควรเริ่มจากการคูณเลขง่ายๆ จากเลข 1 – 12 ก่อน

การคูณเลขด้วยนิ้วมือ

การคูณด้วยนิ้วมือแม่ 6, 7 และ 8

        เราสามารถใช้นิ้วมือช่วยในการหาผลคูณ 1 x 9, 2 x 9, 3 x 9, 4 x 9, 5 x 9, 6 x 9, 7 x 9, 8 x 9, 9 x 9 และ 10 x 9 แล้ว ยังสามารถใช้นิ้วมือในการหาผลคูณของ 6 x 6, 6 x 7, 6 x 8, 6 x 9, 7 x 7, 7 x 8, 7 x 9, 8 x 8 และ 8 x 9 ดังนี้
        1. ข้อตกลง การกำหนดเลขโดดแทนนิ้วมือ ให้นักเรียนคว่ำมือโดยนิ้วหัวแม่มือหันเข้าหากัน นิ้วหัวแม่มือทั้งสองมือ เลข 6  นิ้วชี้ทั้งสองมือ เลข 7 นิ้วกลางทั้งสองมือ เลข 8 นิ้วนางทั้งสองมือ เลข 9
        2. ในการหาผลคูณของ 6 x 6 ให้นำนิ้วหัวแม่มือ(เลข 6) ชนกัน มีนิ้วชนกันอยู่ 2 นิ้ว นิ้วที่ชนกันมีค่านิ้วละ 10 จะได้ 20 เก็บไว้ จากนั้นให้นำจำนวนนิ้วที่เหลือแต่ละมือคูณกัน มือซ้ายเหลือ 4 มือขวาเหลือ 4 นำ 4 x 4 ได้ 16 นำ 16 ไปบวกกับ 20 ที่เก็บไว้ จะได้ 20 + 16 = 36 ดังนั้น 6 x 6 = 36 ดังรูป
                 
        3.  ในการหาผลคูณ 7 x 6 ให้นำนิ้วแม่มือและนิ้วชี้(เลข 6 เลข 7)ของมือซ้ายมาชนกับนิ้วหัวแม่มือ(เลข 6)ของมือขวามีนิ้วชนกันอยู่ 3 นิ้ว นิ้วที่ชนกันมีค่านิ้วละ 10 จะได้ 30 เก็บไว้ จากนั้นให้นำจำนวนนิ้วที่เหลือแต่ละมือคูณกัน มือซ้ายเหลือ 3 มือขวาเหลือ 4 นำ 3 x 4 ได้ 12 นำ 12 ไปบวกกับ 30 ที่เก็บไว้ จะได้ 30 + 12 = 42
 ดังนั้น 7 x 6 = 42 ดังรูป
                
        4.  ในการหาผลคูณ 8 x 6 ให้นำนิ้วแม่มือ นิ้วชี้และนิ้วกลางเลข 6 เลข 7  เลข 8)ของมือซ้ายมาชนกับนิ้วหัวแม่มือ(เลข 6)ของมือขวามีนิ้วชนกันอยู่ 4 นิ้ว นิ้วที่ชนกันมีค่านิ้วละ 10 จะได้ 40 เก็บไว้ จากนั้นให้นำจำนวนนิ้วที่เหลือแต่ละมือคูณกัน มือซ้ายเหลือ 2 มือขวาเหลือ 4 นำ 2 x 4 ได้ 8 นำ 8 ไปบวกกับ 40 ที่เก็บไว้ จะได้ 40 + 8 = 48 ดังนั้น 8 x 6 = 48 ดังรูป
                 
        5.  ในการหาผลคูณ 9 x 6 ให้นำนิ้วแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนางเลข 6 เลข 7 เลข 8 เลข 9)ของมือซ้ายมาชนกับนิ้วหัวแม่มือ(เลข 6)ของมือขวามีนิ้วชนกันอยู่ 5 นิ้ว นิ้วที่ชนกันมีค่านิ้วละ 10 จะได้ 50 เก็บไว้ จากนั้นให้นำจำนวนนิ้วที่เหลือแต่ละมือคูณกัน มือซ้ายเหลือ 1 มือขวาเหลือ 4 นำ 1 x 4 ได้ 4 นำ 4 ไปบวกกับ 50 ที่เก็บไว้
จะได้ 50 + 4 = 54 ดังนั้น 9 x 6 = 54 ดังรูป
                   
      ในทำนองเดียวกันก็สามารถหาผลคูณของ 7 x 7, 7 x 8, 7 x 9, 8 x 8 และ 8 x 9 ได้เช่นกัน

เคล็ดลับเรียนเก่ง

วันนี้ครูมีเคล็ดลับของการเรียนเก่งมาฝากคร้า 
เคล็ดลับ การเรียนเก่ง
1.คุมเวลาตื่นนอนให้ได้ทุกวันก่อนคะ
       เช่น ตื่น 6 โมงเช้านอน 4 ทุ่ม ซัก 1 เดือนติดต่อกัน ให้ได้ก่อนค่อยมาว่าอ่านหนังสือคะเพราะจะเป็นการจัดระบบมันสมองใด้อย่างดีเยี่ยม และจะรู้สึกว่าสมองมีพลังในการรับรู้ค่ะถ้าทำข้อนี้ไม่ได้ อย่าคิดว่าจะเรียนให้ดีได้ยากค่ะ


2. หลักการอ่านหนังสือใด ๆ ไม่จำเป็นต้องอ่านทีละนาน ๆ คะ

      เช่นตั้งไว้ว่า วันนึง เราจะ อ่านซัก 1 - 2 ชม.ก็เกินพอคะ แต่สำคัญอยู่ที่ความต่อเนื่องคะถ้ายังบังคับตัวเองไม่อยู่ ข้อ 1. ก็เป็นการฝึกบังคับอย่างนึงแล้ว ต้องอ่านทุกวัน ไม่มีวันหยุดค่ะ
       อย่างเช่นจะ อ่านวันละ 2 ชม. แต่แบ่ง เป็น 4 ยก. ครั้งละ 25 - 30 นาที และพัก 5- 10 นาที

3. อ่านจบวันนึง ๆ ต้องมีสรุปแบบเล่มยาว ๆ เลยนะค่ะ
        
4. ถึงตอนนอนให้นั่งสมาธิซัก 5 นาทีพอรู้สึกใจเริ่มนิ่ง ให้นึกที่เราสรุปไว้


5. ต้องรู้วิธีเรียนในแต่ละวิชาคะ
        เช่น คณิต + ฟิสิกส์ เน้นความเข้าใจเป็นอันดับ 1 เคมี เน้น เข้าใจ + ท่องจำบางอย่าง เช่น ตารางธาตุ ถ้าท่องยังไม่ได้แสดงว่าไม่เข้าใจว่ามันจำเป็นต้องจำ อังกฤษ เป็นเรื่อทักษะต้องใช้บ่อย ๆ คะ เวลาจะทำอะไรก็นึกเป็นภาษาอังกฤษบ้าง เช่นนึกจะทักเพื่อนว่าไปไหน ก็นึกว่า where do you go .? อะไรเป็นต้น
แล้วก็ต้องเข้าใจ เป็นภาษาต่างด้าวยังมีคำหรือสำนวนที่เราไม่เข้าใจอีกเยอะ ดังนั้นเรื่องศัพท์ต้องรู้เยอะ ๆ เวลาจะไปดูหนัง Entertain กันทั้งที ก็เลือกดูเรื่องที่เขามีแต่ sub title เป็นภาษาอังกฤษ

6. วิธีเรียนพวกวิชาที่ใช้ความเข้าใจ
      อันดับแรกต้องรีบศึกษาเนื้อหาทั้งหมดให้จบอย่างรวดเร็วคะถามว่าอ่านจากไหน อย่ามองไกลคะแบบเรียนนั่นล่ะ อย่าเพิ่งไปมองพวกคู่มือถ้าเราอ่านแบบเรียนไม่รู้เรื่อง ก็อย่าไปหวังจะดูตำราอื่นเลยคะจากนั้นให้รีบหา แบบฝึกหัด มาทำในแบบเรียนนั่นล่ะให้ได้หมดก่อน
จากนั้นค่อย เสาะหาตำราคู่มือที่คิดว่าเราดี อ่านแล้วเข้าใจอีกซักเล่มนึงมา
อ่านเนื้อหาให้หมด อีกที แล้วทำแบบฝึกหัดในเล่มนั้นให้จบหมด . สำคัญคือความตั้งใจนะคะ. ต้องเข้าใจว่าเรา มีความรู้ในบทนั้น ๆ จบแล้ว ทำไมยังทำโจทย์บางข้อไม่ได้ พยายามคิด สุดท้ายไม่ออก ก็ดูเฉลย แล้วต้องตอบตัวเอง ให้ได้ว่าเราโง่ตรงไหน ทำไมทำไม่ได้
โจทย์ข้อนั้น ๆ เป็นเทคนิคเฉพาะหรือเปล่า ต่อไป ก็เสาะหาพวกข้อสอบต่าง ๆ มาให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้ว ก็ ทำ ๆ ๆ จนเกิดรู้สึกว่า บรรลุ !!! ในเรื่องนั้น ๆ มันเป็นความรู้สึกคล้าย ๆ สำเร็จเป็นผู้วิเศษอะไรทำนองนั้น หรือฝึกวิทยายุทธสำเร็จแบบนั้น มองโจทย์ปุ๊บ จะเกิดความคิด แปร๊บ ๆ ขึ้นมานึกออกทะลุหมด เมื่อนั้นรู้สึกแบบนี้เมื่อไร ให้รีบสรุปเนื้อหาบทนั้น ๆ ออกมา ในกระดาษขนาดประมาณ 2.5 นิ้ว คูณ 4 - 5 นิ้วคะใช้หน้าหลังเขียนให้พอให้ได้ใน 1 บทต่อ 1 แผ่น อาจจะมียกเว้นบางบท เช่น สถิติ อาจใช้ถึง 6 แผ่น หรือตรีโกณ 3 แผ่น ส่วนใหญ่ไม่เกินหรอกคะ จากนั้นปาตำราบทนั้น ๆ ทิ้งไปเลยคะ

7. สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำอะไรก็ตามที่
         คือ ต้องมีความรู้ติดสมอง สามารถหยิบมาใช้การได้ทันทีครับ. ถ้าคิดจะเรียนเพื่อสอบนั่นก็แสดงว่ากำลังคิดผิดอย่างใหญ่หลวงคะ. เด็กสมัยใหมนี้ชอบคิดว่าเรียน ๆ ไปเพื่อสอบ สอบเสร็จก็เลิก นั่นเป็นเพราะผลพวงของระบบ แข่งในการศึกษาของไทยเราคะ. เด็กต้องสอบEntrance เข้าต่อ ทำให้ไม่เกิดความรู้สึกในการใฝ่รู้ ต้องเข้าใจว่าเราเรียนหนังสือนี่ ต้องถือว่าไม่มีใครมาบังคับเรา เราเรียนเพื่อตัวเราเอง เพื่อพัมนาสมองเราเอง พัฒนา มุมมองความคิดต่าง ๆ เพื่อให้เราเป็นยอดคนเอง สามารถที่จะพึ่งตัวเองได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะยังอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองหรือหลุดจากอ้อมแขน บิดามารดาเมื่อไร ต้องสามารถที่จะกล้าคิดและทำ พึ่งตัวเอง ยังชีพตัวองในสังคมนี้ได้คะ. ดังนั้น จากข้อ 7. เราต้องบันทึกความรู้ที่เรารู้แล้ว ให้เป็นความรู้ยาวนานติดสมอง
โดยทำดังต่อไปนี้ค๊ะ
        - ให้นึก ! โน๊ตย่อที่เราสรุปเอง อาทิตย์ละหน ติดต่อกัน ซัก 1 เดือนหรือ 4 อาทิตย์
นึกนะคะไม่ใช่เปิดดูถ้านึกไม่ออก แสดงว่าไม่ได้สรุปเองแล้วล่ะเปิดหนังสือ แล้วสรุปตามแหง ๆ จากนั้นให้ทิ้งห่างเป็น นึก 1 เดือนต่อครั้ง จนเริ่มรู้สึกเบื่อ เพราะนึกทะลุปรุโปร่งหมดแล้วให้เลิกคะ ใกล้สอบค่อยว่ากันอีกที กระบวนการที่ว่านึกตั้งแต่ 1 อาทิตยืจนเลิกนึกนี่
คาดว่าไม่ตำกว่า 3 เดือนนะคะ. ใครน้อยกว่านี้ แสดงว่าโกหกตัวเองชัวร์

8. กระบวนการสุดท้าย เป็นการเพิ่มพลังความมั่นใจในตัวเองซึ่งต้องกระทำติดต่อกันบ่อยๆ เรื่อยๆ คือกระบวนการสอบแข่งขันคะ.

แล้วอย่าลืมนำไปปฏิบัตินะคะ ได้ผลยังไงบ้างอย่าลืมแจ้งผลให้ครูทราบด้วยนะคะคนเก่งของครู
ด้วยรัก....ครูบุ๋ม